สบู่ธรรมชาติ เพื่อเพิ่มผิวชุ่มชื้นและปลอบประโลม

(Natural soap to moisturize and soothe the skin.)

การนำน้ำมันมะพร้าวมาผสมกับว่านห่างจะเข้ ในการทำสบู่ถือเป็นการรวมตัวของส่วนผสมจากธรรมชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิว ทำให้ได้สบู่ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการมอบความชุ่มชื้น

ประโยชน์ของวานห่างจระเข้

1. ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวสูง (Intense Moisturization)

• จากน้ำมันมะพร้าว: เป็นกรดไขมันที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างอ่อนโยน ไม่ดึงน้ำมันธรรมชาติของผิวออกไปทั้งหมด ทำให้ผิวไม่แห้งตึงหลังล้าง
• จากว่านหางจระเข้: อุดมไปด้วยน้ำ วิตามิน และสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ยืดหยุ่น และไม่แห้งกร้าน

2. ปลอบประโลมและลดการระคายเคืองผิว (Soothing and Anti-irritant)

• จากว่านหางจระเข้: มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ บรรเทาอาการแสบร้อน คัน หรือแดงของผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่ระคายเคืองง่าย ผิวที่แพ้ หรือผิวไหม้จากแดด ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายขึ้น

3. ช่วยสมานแผลและฟื้นฟูผิว (Wound Healing and Skin Regeneration)

• จากว่านหางจระเข้: กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิว รอยถลอกเล็กๆ หรือรอยแดงต่างๆ ดูจางลง และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

4. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน (Gentle Cleansing)

• จากน้ำมันมะพร้าว: เป็นเบสหลักในการทำสบู่ ทำให้เกิดฟองนุ่มละมุน สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกินบนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือทำให้ผิวแห้งตึง

วิธีใช้สบู่น้ำมันมะพร้าวว่านหางจระเข้

การใช้สบู่น้ำมันมะพร้าวว่านหางจระเข้นั้นไม่แตกต่างจากการใช้สบู่ทั่วไปมากนัก แต่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวพรรณ ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:

สำหรับล้างหน้า

1. ล้างมือให้สะอาด: ก่อนสัมผัสใบหน้า ควรล้างมือให้สะอาดเสมอ เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกจากมือไปปนเปื้อนบนใบหน้า
2. พรมน้ำบนใบหน้า: พรมน้ำสะอาด (น้ำอุณหภูมิปกติ) ให้ทั่วใบหน้า เพื่อเตรียมผิวสำหรับการทำความสะอาด
3. สร้างฟองสบู่:
   • นำก้อนสบู่ไปจุ่มน้ำเล็กน้อย แล้วถูกับฝ่ามือทั้งสองข้างเบาๆ จนเกิดฟองนุ่ม
   • หรืออาจใช้ตาข่ายตีฟอง (ถ้ามี) เพื่อให้ได้ฟองที่หนานุ่มและละเอียดขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการเสียดสีผิวโดยตรงกับก้อนสบู่
4. นวดเบาๆ บนใบหน้า: นำฟองสบู่ที่ได้มาลูบไล้เบาๆ ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ โดยเน้นบริเวณที่มีความมันหรือสิ่งสกปรกสะสม เช่น ทีโซน (หน้าผาก จมูก คาง) นวดวนเป็นวงกลมอย่างอ่อนโยน ประมาณ 20-30 วินาที
   • หลีกเลี่ยงการถูแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
   • หลีกเลี่ยงการนำก้อนสบู่มาถูบนใบหน้าโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวแห้งตึงเกินไป หรือมีสิ่งสกปรกจากสบู่ไปติดบนผิว
5. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด: ล้างฟองสบู่ออกด้วยน้ำสะอาดให้หมดจด โดยอาจใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำเย็น เพื่อช่วยกระชับรูขุมขน
6. ซับหน้าให้แห้ง: ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับหน้าเบาๆ ให้แห้ง โดยการกดซับ ไม่ใช่การถู เพื่อลดการเสียดสีและระคายเคือง
7. บำรุงผิวต่อ: ตามด้วยโทนเนอร์ เซรั่ม หรือมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อคงความชุ่มชื้นและบำรุงผิว

สำหรับอาบน้ำ/ล้างตัว

1. ทำผิวกายให้เปียก: อาบน้ำให้ผิวกายเปียกชุ่ม
2. สร้างฟองสบู่: นำก้อนสบู่ไปจุ่มน้ำ แล้วถูโดยตรงกับร่างกาย หรือใช้ใยบวบ/ฟองน้ำอาบน้ำ ถูสบู่จนเกิดฟอง
3. ฟอกผิวกาย: ใช้ฟองสบู่หรือก้อนสบู่ถูทำความสะอาดผิวกายให้ทั่ว เน้นบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดเป็นพิเศษ หรือบริเวณที่ต้องการการบำรุง (เช่น ผิวแห้งกร้าน)
4. ล้างออก: ล้างฟองสบู่ออกด้วยน้ำสะอาดให้หมดจด
5. ซับตัวให้แห้ง: ใช้ผ้าขนหนูซับตัวเบาๆ ให้แห้ง

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

• เก็บสบู่ในที่แห้ง: หลังจากใช้งาน ควรวางสบู่ไว้บนที่วางสบู่ที่มีรูระบายน้ำ เพื่อให้น้ำระบายออกและสบู่แห้งง่ายขึ้น จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสบู่และป้องกันการละลายเร็ว
• สังเกตอาการแพ้: แม้จะเป็นสบู่จากธรรมชาติ แต่อาจมีบางรายที่แพ้ส่วนผสมได้ หากมีอาการคัน แดง หรือระคายเคือง ควรหยุดใช้ทันที

ราคา 79 บาท